สละนอกจากรับประทานเป็นผลไม้แล้ว ยังมีสรรพคุณทางยา..และยิ่งไปกว่านั้น..ยังนำมาทำอาหารได้เมนูคาวหวานที่น่าลองลิ้มได้อีกด้วย มาดูกัน
สละผลไม้น่าลองลิ้ม
ที่มาของภาพ www.wangtakrai.com
สละ เป็นพืชพื้นเมืองของประเทศอินโดนีเซีย
พันธ์ุสละในประเทศไทย ที่มีการปลูกเป็นการค้ามีหลายพันธุ์ เช่น
1.พันธุ์เนินวง ผลหัวท้ายเรียว สีส้มอมน้ำตาล หนามยาว ผลดิบฝาดเปรี้ยว ผลสุก หวานหอม เมล็ดเล็ก
2.พันธุ์หม้อ ผลยาว ปลายแหลมเป็นจะงอย เปลือกสีแดงเข้ม
3.พันธุ์สุมาลี ทรงต้นคล้ายระกำ ผลป้อมสั้น เนื้อเป็นสีส้มคล้ายระกำ
มีสรรพคุณทางยา
1.ช่วยแก้อาการกระหายน้ำและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับร่างกาย
2.มีสารต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง
3. มีโพแทส เซียม ช่วยควบคุมสมดุลของน้ำในร่างกายและช่วยทำให้หัวใจเต้นเป็นปกติ ช่วยลดความดันโลหิต ช่วยรักษาภูมิแพ้
ช่วยให้มีสติปัญญา จิตใจร่าเริงแจ่มใสได้ โดยการส่งออกซิเจนไปเลี้ยงที่สมอง และช่วยกำจัดของเสียในร่างกาย
4.มีเพคตินซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของเส้นใยอาหาร เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักหรือควบคุมน้ำหนัก ช่วยบำรุงและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดลดไขมันในเส้นเลือดช่วยในการย่อยอาหาร ลดกรดในกระเพาะ ช่วยกำจัดของเสียในร่างกาย
เป็นอาหาร
1.โดยทั่วไปสละนิยมกินเป็นผลไม้สด ทำน้ำผลไม้ หรือนำไปสกัดกลิ่นเพื่อใช้แต่งกลิ่นอาหาร ในอินโดนีเซีย นิยมนำสละบาหลีไปทำเป็นน้ำผลไม้ หรือทำไวน์
2.บางประเทศได้นำใบของต้นสละมาทำเป็นชาผสมกับน้ำผึ้งดื่ม เพื่อใช้รักษาและบรรเทาอาการของโรคริดสีดวง
3.คนไทยเรานอกจากรับประทานสละเป็นผลไม้แล้ว ยังนำมาปรุงอาหารเป็นเมนูรสเด็ดได้หลากหลาย
3 เมนูรสเด็ดที่ปรุงด้วยสละ
1.น้ำพริกสละ
ที่มาของภาพ : http://www.pim.in.th
ส่วนผสมและเครื่องปรุง เนื้อสละเปรี้ยว 8 ผล กุ้งแห้งเนื้อป่นละเอียด 1 ชต. กะปิเผา (โดยห่อใบตองปิ้งให้หอม 1 ชต.) พริกขี้หนูสวน 10 เม็ด
กระเทียมไทยกลีบเล็ก 15 กลีบ น้ำตาลปี๊บ 1/2 -3/4 ชต. น้ำมะนาว 2 ซีก น้ำปลา 1 ชช.
ที่มาของภาพ : http://www.pim.in.th/
วิธีทำ
1.นำสละมาปอกเปลือก ดึงเยื่อและเส้นสีขาวๆออก ล้างให้สะอาดแล้วฝานเอาแต่เนื้อ
2.นำกุ้งมาโขลกให้ป่น ล้างพริก แกะกระเทียม และเผากะปิเตรียมไว้
3.นำกระเทียม และพริกขี้หนูมาโขลกให้เข้ากัน แล้วใส่กะปิโขลกด้วยกัน
4.ใส่น้ำตาลปี๊บ ตามด้วยกุ้งป่น มะนาว และน้ำปลา เคล้าให้เข้ากันและชิมดู
2.สละลอยแก้วเกล็ดหิมะ
ที่มาของภาพ : http://th.openrice.com/
ส่วนผสมและเครื่องปรุง สละ 1 กก. น้ำตาลทราย 1 กก. น้ำเปล่า 2 ถ้วย เกลือป่น 1 ½ – 2 ชช.
วิธีทำ
1. นำสละมาปอกเปลือก ใช้มีสำหรับคว้านผลไม้ มาคว้านเมล็ดออกโดยเลาะทั้งด้านบนและล่างของผลสละแล้วดันเมล็ดออกมาทางด้านหนึ่ง
2. ล้างด้วยน้ำเปล่าก่อนหนึ่งครั้ง จากนั้นนำมาล้างกับน้ำครึ่งถ้วยตวงที่ผสมกับเกลือ 1ช้อนชา ล้างเนื้อสละอย่างเบามือ แล้วนำขึ้นให้สะเด็ดน้ำ
3.ผสม น้ำสะอาด 1 ½ ถ้วยตวงกับน้ำตาล ยกขึ้นตั้งไฟคนจนน้ำตาลละลายดีแล้ว กรองด้วยผ้าขาวบาง ยกขึ้นตั้งไฟอีกครั้ง แล้วใส่สละที่เตรียมไว้ลงไป เติมเกลิอลงไป
4. คนให้เข้ากัน แล้วแบ่งน้ำเชื่อมสละลอยแก้วไปแช่ให้เป็นน้ำแข็ง
5.นำน้ำแข็งออกมาขูดหรือปั่นให้ได้เป็นเกล็ดหิมะ จากนั้นช้อนเอาแต่เนื้อสละลอยแก้วใส่ลงบนน้ำเชื่อมเกล็ดหิมะ
3.ปลาอินทรีต้มสละ
ที่มาของภาพ : http://www.wongnai.com
ส่วนผสมและเครื่องปรุง ปลาอินทรีชิ้นใหญ่ ประมาณ 1.5 ขีด 2 ชิ้น สละแกะเปลือกและเส้นใยสีขาวออก 15 ผล เกลือ 1.5 ชช. น้ำปลา 2 ชต. พริกขี้หนู 15 เม็ด น้ำมะนาว 2 ชต.ผักชีและพริกขี้หนูแดง
วิธีทำ
1.นำปลาอินทรีมาล้างทำความสะอาด นำไปลวกก่อนแล้วพักไว้
2. ต้มน้ำให้เดือดจัด ใส่ผลสละ เกลือ น้ำปลา ใส่เนื้อปลาอินทรีที่ลวกแล้วลงไป เมื่อปลาสุกดีแล้วให้หรี่ไฟ ใส่พริกขี้หนูบุบและน้ำมะนาว และปิดไฟได้เลย ตักใส่ถ้วยเสิร์ฟ โรยหน้าด้วยผักชีและพริกขี้หนูแดง
เคล็ดลับที่จะทำปลาอินทรีให้อร่อย
1 การลวกปลา ให้ต้มน้ำให้เดือดก่อน แล้วนำปลาลงลวกพอสุก แล้วยกขึ้นนำไปผ่านน้ำเย็นทันที เพื่อลดความร้อนในเนื้อปลา ไม่ให้เนื้อปลาหดตัว และดับกลิ่นคาว ถ้าใช้กับอาหารทะเลอื่นๆที่มีกลิ่นคาวมากก็ให้ใส่ขิงลงไปในน้ำลวกด้วย กลิ่นคาวจะหายไป
2 การต้มปลา หรือแกงอื่นๆก็แล้วแต่ ไม่ควรคนในหม้อเด็ดขาด นอกจากจะทำให้น้ำมีกลิ่นคาวแล้วยังทำให้น้ำมีสีขุ่นไม่น่ากินด้วย ดังนั้นถ้าเราต้องการให้น้ำต้มเราใสก็ไม่ควรคนในหม้อ
ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.dailynews.co.th/agriculture/396633 และ http://frynn.com/สละ
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B8%B4%E0%B8%99
http://www.pim.in.th/thai-dipping-and-sauce/440-2011-03-31-13-07-52
http://paicooker.blogspot.com/2012/06/blog-post_10.html
You must be logged in to post a comment.